วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


1 เติมน้ำมันให้รถเช่าหลัง 4 ทุ่ม หรือก่อน 9 โมงเช้าเสมอ อุณหภูมิที่เย็นน้ำมันหดตัวได้ปริมาตรมากขึ้น 2% 

2 เติมน้ำมันของรถเช่าแค่หัวจ่ายตัดพอแล้ว ถ้าเติมจนเต็มปรี่ ร้อนๆน้ำมันจะขยายตัวระเหยทิ้งที่รูระบาย 

3 อุ่นเครื่องรถเช่า 1 นาทีในหน้าร้อนและ 3 นาทีในหน้าหนาว เครื่องจะได้ไม่ใช้กำลังฉุดมากและการหล่อลื่นจะสมบูรณ์ขึ้น 

4 ค่อยๆออกตัวรถเช่าเมื่อรถจอดนิ่ง 1-2 พันรอบ ได้ความนิ่มนวล ประหยัด และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ 

5 ควรใช้เกียร์สูงเมื่อรถเช่าวิ่งได้ 2500 รอบขึ้นไป การลากเกียร์จะทำให้ชดเกียร์ทำงานจนอายุการใช้งานสั้น 

6 เครื่องของรถเช่าที่ 2.0 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด110 กม./ชม. รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง 

7 เครื่องของรถเช่าที่ 1.6 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด 90 กม./ชม. รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง 

8 พักรถเช่าสัก 15 นาทีเมื่อขับเกิน 4 ชม.เพื่อให้ลดความร้อน ให้น้ำมันในระบบคลายความร้อนกลับมามีคุณสมบัติที่ดีอีกครั้ง 

9 เกียร์ถอยกินน้ำมันมากสุด ควรค่อยๆถอยไม่ต้องรีบ เกียร์ถอยใช้อัตราทดและแรงฉุดมากกว่าทุกเกียร์ 

10 ก่อนที่รถเช่าจะถึงปลายทางสัก 500 เมตรให้ปิด COM แอร์ลดภาระเครื่อง เป่าลมไล่ความชื้นในตู้แอร์และไล่เชื้อราที่อยู่ในนั้นด้วย 

11 เช็คลมยางของรถเช่าให้สม่ำเสมอทุกๆ 2 อาทิตย์และเมื่อจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด ลมยางอ่อนวิ่งได้ช้า ขอบยางสึกมากอายุการใช้งานสั้น 

12 พยายามอย่าใส่ของไว้ในรถเช่าเยอะ เพิ่มน้ำหนักรถทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 % ตามระยะทาง

ขอบคุณข้อมูลจาก นสพ.ผู้จัดการรายวัน
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com
         

         การปรับเบาะและท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง มีผลมากต่อความปลอดภัยในการขับรถที่เช่ารถมา รวมถึงความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนด้วย  การปรับเบาะที่ถูกต้องทำได้ไม่ยาก แค่ใช้ฝ่าเท้า เน้นว่าฝ่าเท้า ไม่ใช่ปลายเท้า เหยียบแป้นคลัตช์ให้สุด หรือถ้าเป็นเกียร์ออโต้ก็ใช้ฝ่าเท้าเหยียบแป้นเบรกรถที่เช่ารถ แล้วเลื่อนตัวเบาะนั่งให้เข่างอเล็กน้อย นั่นเป็นตำแหน่งของเบาะนั่งที่เหมาะสม
          
          ส่วนการปรับพนักพิงที่ถูกต้อง จะต้องไม่เอนหรือตั้งเกินไป ถ้าปรับพอดี จะเช็คได้โดย ใช้มือซ้ายจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 9 นาฬิกา มือขวา 3 นาฬิกา แล้วข้อศอกต้องงอเล็กน้อย แต่แผ่นหลังต้องแนบกับพนักพิงตลอดเวลา          
          ปรับเสร็จแล้วลองเลื่อนมือไปวางไว้บนสุดของวงพวงมาลัย แถวๆ ข้อมือต้องแตะกับพวงมาลัยจึงจะถูกต้อง ถ้าวงพวงมาลัยอยู่เลยไปถึงกลางฝ่ามือหรือโคนนิ้ว แสดงว่าปรับพนักพิงเอนเกินไป ถ้าวงพวงมาลัยอยู่ชิดเลยข้อมือเข้ามาแสดงว่านั่งชิดเกินไป          
          หมอนรองศีรษะก็สำคัญ ควรปรับให้พอดีโดยให้เอนศีรษะแล้วพิงช่วงกลางหมอนพอดี แต่ศีรษะไม่ต้องพยายามพิงหมอนเวลาขับรถที่เช่ารถ เพราะหมอนรองศีรษะมีไว้รองรับเมื่อเกิดการชนแล้วศีรษะจะได้สะบัดไปด้านหลัง น้อย ไม่ใช่ไว้พิงตอนขับ          
          เข็มขัดนิรภัยถ้าปรับสูง-ต่ำได้ ก็ควรปรับต่อจากการปรับเบาะ จะได้พอดีกัน ที่ถูกต้องสายเข็มขัดนิรภัยต้องพาดจากไหปลาร้าเฉียงลงมาที่สะโพก ส่วนด้านล่างก็พาดอยู่แถวกระดูกเชิงกราน อย่าให้สายพาดคอ หรือห้อยเลยหัวไหล่ลงไป                    
          พวงมาลัย ของรถรุ่นใหม่ๆ มักปรับสูงต่ำได้ ก็ควรปรับให้พอดี คือ ไม่สูงเกินไปเพราะจะเมื่อยเมื่อขับนานๆ และไม่ต่ำเกินไปจนติดต้นขา  กระจกมองข้างและกระจกมองหลังเปรียบเสมือนตาหลังของคนขับ กระจกมองข้างควรปรับไม่ก้มหรือเงยเกินไป และปรับให้เห็นด้านข้างของตัวรถที่เช่ารถเรานิดๆ อย่าให้เห็นแต่ทางด้านหลังล้วนๆ ส่วนกระจกมองหลังก็ปรับให้เห็นด้านหลังเป็นมุมกว้างที่สุด ไม่ใช่ปรับไว้ส่องหน้าตัวเองแบบที่หลายคนทำกัน                    
           ทั้งหมดที่แนะนำต้องปรับตอนรถจอดนิ่งในที่ปลอดภัย อย่าปรับตอนขับรถหรือจอดบนถนน อันตราย ถุงลมนิรภัย หรือแอร์แบ็ก ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ มักมีมาให้อย่างน้อย 1 ใบในฝั่งผู้ขับ                    
           ถุงลมนิรภัย จะพองตัวขึ้นเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีไว้รองรับร่างกายส่วนบนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้ปะทะกับพวงมาลัยหรือแผงหน้าปัดโดยตรง ช่วยลดความบาดเจ็บได้ แต่ก็ต้องมีการใช้งานที่ถูกต้องด้วย          
           สิ่งสำคัญในการขับรถที่เช่ารถมีถุงลมฯ คือ ต้องปรับเบาะและพนักพิงให้เหมาะสม อย่าให้ชิดเข้ามามากเกินไป คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง และจับพวงมาลัยให้ถูกตำแหน่ง   ถ้าปรับเบาะชิดไป และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ร่างกายส่วนบนอาจปะทะกับถุงลมฯ ผิดจังหวะ คือ ปะทะตอนถุงลมยังพองตัวไม่สุด ร่างกายพุ่งไปด้านหน้าแล้วเจอกับถุงลมฯ ที่พุ่งสวนออกมา กลายเป็น 2 แรงบวกเจ็บหนักแน่          
          การจับพวงมาลัยก็เกี่ยวข้องกับถุงลมฯ เพราะถ้าจับไม่ถูกตำแหน่งแขนอาจไปขวางทางการพองตัวของถุงลมฯ ทำให้ถุงลมฯ ไม่ได้ทำงานตามที่ออกแบบมา          
          ส่วนรถที่เช่ารถมีถุงลมฯ ฝั่งข้างคนขับก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่วางของขวางทางถุงลมฯ และอ่านคำเตือนเรื่องถุงลมฯ ในคู่มือประจำรถอย่างละเอียดก่อนใช้งานด้วย  ถุงลมนิรภัยจะช่วยลดความบาดเจ็บได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้งานอย่างถูกวิธี จำง่ายๆ ว่า อย่านั่งชิดเกินไป และต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการขับรถที่เช่ารถ ไม่งั้นอาจกลายเป็นถุงลมมหาภัยได้          
           ตำแหน่งการจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง          จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่า คนไทยมีการจับพวงมาลัยผิดตำแหน่งกันมากกว่าครึ่ง แต่ก็ไม่ได้สำรวจอย่างจริงจัง แค่ลองนั่งริมถนนคอยดูคนขับรถผ่านไปเท่านั้น3 สาเหตุที่ทำให้หลายคนปฏิบัติกันผิดๆ ก็คือ          
1. เน้นความสบายของตนเองเป็นหลัก          
2. จับพวงมาลัยตามใจชอบ ก็ไม่เห็นจะเกิดอุบัติเหตุเลย          
3. ไม่มีใครบอกใครสอน ทั้งตอนหัดขับรถ หรือคนอื่นนั่งไปด้วย ตำแหน่งที่ถูกต้องของการจับพวงมาลัย เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าปัดนาฬิกา เพราะเป็นวงกลมเหมือนกันน่าจะเข้าใจกันได้ง่าย มือซ้ายอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา มือขวาอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ส่วนตำแหน่ง 10 และ 2 นาฬิกา อนุโลมได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะความแม่นยำในการบังคับควบคุมจะด้อยกว่าตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกาซึ่งอยู่ครึ่งหรือช่วงกลางของวงพวงมาลัยพอดี  การกำพวงมาลัยสำหรับการขับรถที่เช่ารถบนเส้นทางเรียบ ไม่ใช่วิบาก ควรใช้นิ้วโป้งเกี่ยวช่วยด้วยเสมอ กำแน่นพอประมาณ แต่ไม่หลวมเกินไป  ควรจับพวงมาลัย 2 มือ ที่ตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกาอยู่เสมอ (แต่ไม่ถึงกับเกาหรือปรับวิทยุไมได้) อย่าชะล่าใจเมื่อเห็นเส้นทางโล่งๆ หรือเดินทางไกล เพราะถนนเมืองไทยมีหลุมโดยไม่ได้คาดหมาย หรือมีอะไรให้หักหลบฉุกเฉินได้เสมอ และหลังเปลี่ยนเกียร์แล้ว อย่าวางมือคาไว้บนหัวเกียร์ ให้ยกมือขึ้นมาจับพวงมาลัยครบ 2 มือตามปกติ                
         อ่านแล้วนอกจากจะนำไปปฏิบัติ (เหมือนว่าบางคนจะแก้ไขยาก เพราะเคยชิน แต่ถ้าตั้งใจก็ไม่ยาก) ก็ควรเผยแพร่ออกไปเท่าที่ทำได้ เพราะไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการจับพวงมาลัยครบ 2 มือตามตำแหน่งที่บอก เกือบตลอดการขับ ถ้าขับทางไกลแล้วรู้สึกเมื่อย ก็แค่บีบข้อศอกเข้ามาแตะลำตัวเท่านั้นเอง  ไม่ควรคิดว่าจับพวงมาลัยตำแหน่งแบบไหนๆ ก็ไม่เคยขับรถที่เช่ารถชน เพราะถ้าพลาดเพียงครั้งเดียว อาจไม่มีโอกาสนึกถึงการแนะนำนี้เลยก็เป็นได้


ขอบคุณข้อมูลจาก นสพ.ผู้จัดการรายวัน
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com/
         

          “อยากเช่ารถ (Car rental or Car rent) สักคัน เพื่อใช้เดินทางไปท่องเที่ยวในวันหยุด จะเลือกรถเช่าอย่างไรดี ที่เหมาะสมกับเรา” วันนี้ผู้เขียนอยากเสนอหลักการเลือกรถเช่าซึ่งมีหลากหลายประเด็น ให้ผู้อ่านสังเกตโดยอยากแนะนำให้ผู้อ่านพิจารณาเป็นข้อๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการเลือกเช่ารถ(Car rental or Car rent) จากผู้ให้บริการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ที่มีอยู่จำนวนมากในท้องตลาด โดยคาดหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านที่กำลังจะตัดสินใจเลือกใช้ บริการรถเช่าของบริษัทรถเช่าแต่ละที่

            1.ประเด็นแรกเรื่องราคาที่เราพึงพอใจ  บางคนจะต้องการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ก่อนอื่นต้องการดูราคาที่ถูกที่สุดหรือราคาที่เรา ต้องการยอมรับได้ในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้ในแต่ละครั้งซึ่งเราแนะนำให้ลูกค้าดูราคารถเช่า (Car rental or Car rent) ด้วย พร้อมกับดูคุณภาพของรถยนต์ที่เราจะเช่ามาใช้งานด้วยเพราะบางทีราคา ที่ถูกเกินไปหรือแพงเกินไปก็ไม่ได้สนองตอบความพึงพอใจของเราทุกครั้งอยากให้ ลูกค้าเลือกราคาที่ปานกลางและเหมาะสมพร้อมการเลือกคุณภาพรถยนต์ไปด้วยเพื่อ ที่จะได้รถเช่าที่มีคุณภาพไปใช้ระหว่างการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้งานด้วย 

            2.ประเด็นที่สองเรื่องคุณภาพรถยนต์  คุณภาพรถยนต์มีความสำคัญมากที่สุดในการเลือกรถยนต์เพราะเรามีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ไปทุกๆพื้นที่ถ้าหากรถมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางจะทำให้เรา เสียเวลามากขึ้นและทำให้เราไม่มีความสุขในการเดินทางเพราะจะทำให้เกิดความ ยุ่งยากต่างๆตามมา ดังนั้นการเลือกคุณภาพรถยนต์สำคัญมากเพราะเรายอมจ่ายราคาไม่ถูกและไม่แพงมากเกินไปแต่ได้รถเช่า (Car rental or Car rent) ที่มีคุณภาพใหม่ และสวยปลอดภัยต่อตัวผู้ขับขี่และต่อผู้โดยสารด้วย

             3.ประเด็นที่สามเรื่องความเรียบร้อยของรถยนต์ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์  ลูกค้าควรตรวจสอบสภาพความเรียบร้อยของรถเช่าทั้งภายในและภายนอกก่อนส่งมอบ เพราะเราจะได้มั่นใจว่ารถที่เช่ามามีความเรียบร้อยไม่มีความเสียหายที่เกิด ขึ้นก่อนที่จะส่งมอบให้ลูกค้าหรือถ้ามีจุดใดที่เกิดขึ้นจะต้องมีการจดบันทึกไว้ด้วย เพื่อที่จะได้ทราบไว้ก่อนส่งมอบรถเช่า เพื่อที่ลูกค้าจะได้ทราบว่ามีความเสียหายจุดไหนบ้างที่เป็นรอยเดิมนั้นเอง

              4.ประเด็นที่สี่เรื่องประกันภัยรถยนต์  ในส่วนของประกันภัยรถเช่านี้สำคัญมากในการที่จะเช่ารถ (Car rental or Car rent) เพื่อจะใช้งานเพราะการเลือกประกันภัยรถยนต์มีความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอย่างมาก หลักการเลือกรถเช่าควรเลือกรถเช่าที่มีประกันภัยควรเลือกประกันภัยชั้น 1 ที่คุ้มครองด้านนอกตัวรถยนต์ทั้งหมดและไม่มีค่ารับผิดชอบด้านนอกเพิ่มเติมอีก เพราะบางทีบริษัทรถเช่าบางที่จะไม่อธิบายเรื่องประกันภัยชัดเจน ทำให้ลูกค้ามีปัญหาในเรื่องค่าเสียหายหรือค่าปรับต่างๆตามมา ในส่วนของประกันภัยรถเช่านี้จะอธิบายเงื่อนไขการคุ้มครองด้านนอกตัวรถยนต์ ทั้งหมด ยกเว้นในส่วนของยางรถยนต์ และด้านในตัวรถยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆในรถยนต์ อาทิเช่น กุญแจรถยนต์ วิทยุ แม่แรงรถยนต์ เป็นต้น ถ้าหากยางรถยนต์แตก รั่ว หรืออุปกรณ์เกิดเสียหายหรือชำรุดสูญหาย ลูกค้าจะต้องสำรองจ่ายเอง ดังนั้นทุกครั้งที่ลูกค้าจะเช่ารถ (Car rental or Car rent) จะต้องมีการสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน ก่อนทุกครั้งจะได้เข้าใจในเรื่องประกันภัยรถเช่าก่อนที่จะเลือกเช่ารถ (Car rental orCar rent)

            5.เรื่องค่าปรับต่างๆที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครอง  ในส่วนของค่าปรับต่างๆที่เกิดขึ้นถ้าหากลูกค้าทำอุปกรณ์ต่างๆเสียหายหรือใน ส่วนของประกันภัยที่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่ลูกค้า ควรพิจารณาและดูเงื่อนไขต่างๆให้ชัดเจนจะได้หลีกเลี่ยงการถูกปรับค่าใช้จ่ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่บางครั้งลูกค้าอาจจะลืมหรือไม่ได้ดูรายละเอียดต่างๆที่ชัดเจนทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกันกับบริษัทรถเช่าในส่วนของค่าปรับต่างๆที่เกิดขึ้นได้

            6.เรื่องเอกสารที่จะต้องใช้ในการเช่ารถ (Car rental or Car rent)  การใช้เอกสารในการเลือกรถเช่านั้นมีความสำคัญมากเพราะบางครั้งเอกสารจะยุ่ง ยากมากในการเช่าหรือมีเงื่อนไขมากมายจนลูกค้าไม่สามารถเช่ารถ (Car rental or Car rent) ได้ดังนั้น สำคัญมากในการเลือกบริษัทรถเช่าหรือรถเช่าที่มีการใช้เอกสารที่ไม่ยุ่งยาก และมีการอนุมัติง่ายรวดเร็วและเห็นความสำคัญของลูกค้าที่จำเป็นต้องใช้รถ ยนต์จริงๆ ซึ่งจะไม่จำกัดการเช่าที่จะต้องใช้บัตรเครดิตอย่างเดียว แต่ควรมีเอกสารหลากหลายให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ประกอบการเช่าได้ ดังนั้นการเลือกบริษัทรถเช่าที่มีความหลากหลายในเรื่องเอกสารการเช่าให้ เลือกมาใช้ประกอบการเช่ารถ (Car rental or Car rent) มีความสำคัญมาก เพราะจะไม่จำกัดลูกค้าที่จะเช่าหรือเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกท่านสามารถเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้ได้ เพราะการเลือกบริษัทรถเช่าที่มีความหลากหลายในการใช้เอกสารในการเช่าจะเปิด กว้างให้ทุกคนมีสิทธิ์เช่ารถ (Car rental or Car rent) ได้นั้นเอง

            7.เรื่องสัญญาเงื่อนไขและใบเสร็จของการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ในการเช่ารถ (Car rental orCar rent) อยากให้ลูกค้าดูเรื่องสัญญาและเงื่อนไขต่างๆในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ให้เกิดความเข้าใจและประเด็นไหนที่ไม่เข้าใจให้สอบถามพนักงานให้เข้าใจจะได้ไม่มี ปัญหาเรื่องการเข้าใจเงื่อนไขและสัญญาที่ไม่ตรงกันขึ้นใบเสร็จที่ได้รับว่ามีความถูกต้องหรือไม่และลูกค้าสามารถทำใบเสร็จแบบที่ลูกค้าต้องการได้หรือไม่ เช่น ลูกค้าต้องการเบิกบริษัทได้ด้วยไหมหรือสามารถนำไปหักภาษี ณ ที่จ่าย

            8.เรื่องเงินมัดจำที่ต้องวางระหว่างการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ในเรื่องการวางเงินมัดจำในระหว่างการเช่ารถนั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ ลูกค้าจะเลือกในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้เพราะบางครั้งลูกค้าต้องการบริษัทที่มีการวาง เงินมัดจำที่ถูกหรือไม่แพงเกินไป ซึ่งแนะนำว่าให้ลูกค้าเลือกการวางเงินมัดจำที่ปานกลางเพราะราคาที่ถูกเกินไป ก็ต้องดูว่าเอกสารยุ่งยากไหมในการเช่าหรือตรวจสอบนานเกินไหม หรือคุณภาพรถดีหรือไม่ การวางเงินมัดจำจะมีความสำคัญในการเลือกรถเช่าตรงที่เราพอใจกับราคาที่จะวางเงินไหม และคุณภาพรถดีเทียบเท่ากับการวางมัดจำหรือไม่

            9.เรื่องโปรโมชั่น  ในส่วนของโปรโมชั่นในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) นั้นมีความสำคัญในการดึงดูดใจให้ลูกค้ามาใช้บริการรถเช่าให้มากขึ้นเพราะโปรโมชั่นจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นและ กระตุ้นการใช้รถเช่าให้มากด้วยอีกทั้งส่งเสริมการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้ของลูกค้าให้มี การเช่ารถให้มากขึ้นด้วย

            10.เรื่องการดูแลและการบริการระหว่างและหลังการเช่ารถ  ในส่วนของเรื่องบริการหลังการขายหลังการเช่ารถก็มีส่วนสำคัญมากเลยค่ะเพราะ การเช่ารถ (Car rental or Car rent) หากมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นการให้การช่วยเหลือหรือการติดต่อให้ข้อมูล การแนะนำให้แก่ลูกค้ามีความสำคัญมากเลย เพราะถ้าหากลูกค้าไม่เข้าใจการใช้งานรถยนต์ต่างๆ จะได้ติดต่อสอบถามการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ทันท่วงที ซึ่งบริการหลังการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ควรที่จะมีความสำคัญมากต่อลูกค้าเอง ในส่วนของการให้บริการการเช่ารถ (Car rental or Car rent) เรื่องที่สำคัญมากในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) นั้นคือการดูแล ลูกค้าให้ทั่วถึงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเรื่องปัญหาต่างในการ ใช้งานรถยนต์หรือการให้ความช่วยเหลือลูกค้าในยามฉุกเฉินซึ่งเป็นสิ่งที่ สำคัญมากในบริการหลังการเช่ารถ (Car rental or Car rent) อีกทั้งการบริการในเรื่องรถทดแทนที่มีให้ลูกค้ากรณีรถลูกค้ามีความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ปกติ บริษัทรถเช่านั้นจะต้องมีบริการเสริมในด้านรถทดแทนซึ่งมีความสำคัญต่อการให้ บริการหลังการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ที่ลูกค้ามีความต้องการมากว่าหลังการเช่ารถ (Car rental or Car rent) นั้นหากมี อุบัติเหตุเกิดขึ้นจนลูกค้าไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ทำให้ลูกค้าจำเป็นต้องมีรถทดแทนให้ลูกค้าเสมอ ซึ่งถ้าบริษัทรถเช่านั้นสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้จะทำให้ลูกค้า เชื่อมั่นและชื่นชอบต่อบริษัทรถเช่านั้นๆ

             11.เรื่องการให้ความช่วยเหลือที่ทันท่วงที ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือลุกค้าที่ทำการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ไปใช้นั้นมีความสำคัญมาก ถ้าหากลุกค้าต้องการความช่วยเหลือที่เร่งด่วนบริษัทรถเช่านั้นๆ จะต้องตอบสนองการให้ความช่วยเหลือลุกค้าได้รวดเร็วหรือทันท่วงทีเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ประสบปัญหาการรอคอยที่นานหรือลูกค้าจะต้องแก้ปัญหาเองนั้นจะทำให้ลูกค้าไม่พึงพอใจในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) ได้ ดังนั้นบริษัทรถเช่าที่ไหนที่สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาการช่วยเหลือลูกค้า ได้ทันที รวดเร็ว จะทำให้ลุกค้าพึงพอใจและชื่นชมในการบริการที่รวดเร็ว ทันใจทำให้มีความมั่นใจที่จะเช่ารถ (Car rental or Car rent) ใช้งานที่บริษัทรถเช่านั้นๆได้อย่างต่อเนื่อง

           12.เรื่องค่าใช้จ่ายและบริเวณที่สามารถไปรับส่งรถยนต์ได้สะดวก  ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆที่มีค่าบริการในการรับส่งรถเช่าตามสถานที่ต่างๆ หรือมีบริเวณรับส่งรถยนต์ได้มากนั้นมีผลต่อการเลือกรถเช่าด้วยบางครั้ง ลูกค้าต้องการให้มีการรับส่งตามความต้องการซึ่งบริษัทรถเช่าที่สามารถตอบ สนองความต้องการของลูกค้าได้มากนั้นทั้งเรื่องราคาที่รับส่งได้ไม่สูงเกินไป หรือมีสถานที่รับส่งได้สะดวกจะเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มาก และลูกค้าจะมีความไว้วางใจที่จะใช้บริการรถเช่าบริษัทนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ด้วย

           13.เรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัทรถเช่า  การเช่ารถ (Car rental or Car rent) ในแต่ละครั้งบางครั้งลูกค้าแต่ละท่านจะมีความเชื่อมั่นในบริษัทรถเช่าที่แตกต่างกันไปบางคนจะเชื่อมั่นหรือยึดติดกับแบรนด์ต่างๆ บางครั้งก็แบรนด์ดังๆหรือบางคนก็ใช้บริการได้ทุกที่แต่เน้นการบริการที่ คุณภาพมากกว่าซึ่งเราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเราควรให้ความสำคัญกับบริษัท รถเช่าที่มีการดูแลเอาใจใส่ลุกค้าและปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างยุติธรรมและจริงใจ ถึงจะเป็นบริษัทที่เราควรไว้วางใจในการเช่ารถ (Car rental or Car rent) และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ที่จะใช้บริการบริษัทรถเช่านั้นอย่างต่อเนื่อง

            14.เรื่องการใส่ใจรายละเอียดต่างๆของลูกค้าตามที่ลูกค้าร้องขอ  ในส่วนต่างๆที่ลูกค้าร้องขอหรือมีความต้องการแสดงความคิดเห็นต่างๆเพิ่มเติม ให้แก่บริษัทรถเช่าเพื่อตอบสนองความต้องการของลุกค้าได้มากขึ้นหรือเป็นการ นำความคิดเห็นต่างๆของลูกค้าไปใช้พัฒนาเพิ่มเติมในส่วนต่างๆนั้นจะทำให้ ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้นในการรับฟังปัญหาหรือข้อเสียต่างๆเพื่อให้บริษัท ได้ปรับปรุงแก้ไขให้มีความก้าวหน้าในการบริการในครั้งต่อๆไปได้ด้วย 

            15.เรื่องสาขาที่ให้บริการ  ในส่วนของสาขาที่ให้บริการมากนั้นบริษัทรถเช่าที่มีสาขาการให้บริการที่มาก นั้นจะทำให้ลุกค้าบางท่านชอบในเรื่องความสะดวกสบายที่จะเลือกใช้บริการสาขา ตามที่ต่างๆได้มากมายซึ่งจะทำให้บริษัทรถเช่านั้นตอบสนองความต้องการใน เรื่องการบริการตามสาขาต่างๆมากมายได้ทำให้ลูกค้าสนใจที่จะใช้บริการกับบริษัทรถเช่านั้นได้มากยิ่งขึ้นด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก thairentecocar.com
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com/


คำถาม (1) กรณีแจกทองให้พนักงานให้พนักงานตามระเบียบของบริษัท โดยพนักงานทำงานครบ 5 ปี จะได้ทองคำ ใบกำกับภาษีซื้อในกรณีนี้ถือเป็นภาษีต้องห้ามหรือไม่
คำตอบ : ภาษีซื้อ อันเกิดจาการซื้อทองแจกพนักงานตามระเบียบของบริษัท บริษัทมีสิทธิขอเครดิตภาษีซื้อได้ เนื่องจากเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวกับกิจการตามระเบียบของบริษัท แต่การแจกทองพนักงานถือเป็นการขายสินค้าต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย

คำถาม (2) ใบกำกับภาษีซื้อค่าเช่ารถยนต์ (Car rent or Car rental) เพื่อใช้ในกิจการของบริษัทเป็นภาษีซื้อต้องห้ามหรือไม่?
คำตอบ : ภาษีซื้ออันเกิดจากการเช่ารถยนต์ (Car rent or Car rental) ที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพาสามิตซึ่งเช่ามาใช้ในกิจการ เป็นภาษีต้องห้ามมอให้นำมาหักออกจากภาษีขาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรา 82/5 (3) (ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวกับกิจการเป็นภาษีซื้อต้องห้าม) ประกาศอธิบดีกรมสรรพกากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42ฯ) ข้อ 2 (1) (ภาษีซื้อที่เกี่ยวกับรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งเกิน 10 คน เป็นภาษีต้องห้าม)

ที่มา: วารสารข่าวสำหรับนักบัญชี และวารสารฉบับเอกสารภาษีอากร สำนักพิมพ์ธรรมนิติ 
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com/

         

         ค่ายแจแปนเร้นท์ ผู้ให้บริการรถเช่า  เช่ารถกรุงเทพระยะยาวระบุผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกโตเกินเป้าจากที่วางไว้ทั้งปี คาดจนถึงสิ้นปีจะรักษาระดับการเติบโตที่ 5-7% พร้อมกวาดรายได้พันกว่าล้าน              
         นายนที วรรธนะโกวินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตเกินเป้า หมายที่วางไว้ โดยวางการเติบโตไว้ที่ 5-7 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โตนั้นมาจากการวางรากฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ประกอบกับการมีจุดเด่นคือมีรถให้เช่าพร้อมพนักงานขับรถที่ผ่านหลักสูตร การอบรมการขับขี่ จากโรงเรียนสอนขับรถของบริษัทที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ
 ปัจจุบัน แจแปนเร้นท์ มีรถอยู่ในพอร์ตทั้งหมดกว่า 1,000 คัน ส่วนใหญ่จะเป็นรถญี่ปุ่น แต่ก็มีรถยุโรปให้เลือก รวมไปถึง รถยนต์ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ คิดเป็น 10% ของรถประเภทอื่นๆ ส่วนอายุรถแต่ละคันที่นำมาให้ลูกค้าใช้บริการจะมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ขณะที่สัดส่วนลูกค้าของแจแปนเร้นท์ มากกว่า 80% เป็นลูกค้าต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น ,ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และ20% เป็นลูกค้าคนไทย และมีรูปแบบการเช่าระยะยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
           
นายนที กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของรถเช่า เช่ารถกรุงเทพ ที่ มีอายุเกิน 3 ปีก็จะส่งประมูลขาย เพื่อนำเม็ดเงินมาลงทุนใหม่ โดยในแต่ละปีจะใช้เงินซื้อรถใหม่เข้ามาในพอร์ตประมาณ 200 -300 ล้านบาท ส่วนรายได้ต่อปีจะอยู่ที่ประมาณร่วมพันล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดรวมรถเช่า เช่ารถกรุงเทพนบาท โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มรถเช่าระยะยาว 75% และอีก 25% เป็นกลุ่มเช่าระยะสั้น 
          "แจแปนเร้นท์ มีศูนย์บริการให้เช่ารถยนต์ที่สำนักงานใหญ่ คลองเตย และที่ ชลบุรี ส่วนศูนย์บริการที่จะรองรับรถเมื่อเกิดปัญหานั้นสามารถเข้าโชว์รูมและศูนย์ บริการของรถยี่ห้อนั้นๆได้เลย ซึ่งรถของเรามากกว่า 70% เป็นของโตโยต้า ที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ และแม้ว่าลูกค้าใหม่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่เรายังคงรักษาระดับปริมาณรถใน พอร์ตประมาณพันคัน และไม่มีแผนที่จะเพิ่มมากกว่านี้ เนื่องจากมองว่าต้องการให้บริการกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด ประกอบกับผลการดำเนินงานที่เติบโตเฉลี่ย 5-7%ในแต่ละปีก็ถือว่าเป็นผลที่น่าพอใจอยู่แล้ว จึงดำเนินธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า  "
 ด้านภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจ
รถเช่า เช่ารถกรุงเทพใน ประเทศไทยนั้น ปัจจุบันตลาดเริ่มจะอิ่มตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์ด้านราคามากขึ้น ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคก็ปรับเปลี่ยนโดยมีการสวิตซ์แบรนด์ คือ มีการสลับสับเปลี่ยนการใช้ โดยเมื่อหมดอายุสัญญาจากบริษัทหนึ่ง ก็จะเปลี่ยนไปใช้ของบริษัทหนึ่ง และก็อาจจะกลับมาใช้บริษัทเดิมที่เคยใช้ในครั้งแรกได้ 
 นอกจากนี้ปัจจัยด้านการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศไทยก็มีผลกับตลาดรถเช่า เช่ารถกรุงเทพ เนื่อง จากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติ โดยที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในประเทศและส่งผลให้กับธุรกิจต่างๆ ขณะเดียวกันก็ต้องดูนโยบายของภาครัฐด้วยว่าจะมีอะไรมาสนับสนุนหรือจูงใจนัก ลงทุน 
          "ประเทศไทยมีความพร้อมหลายด้านสำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ,ลักษณะทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ ซึ่งแตกต่างจากเพื่อนบ้าน อาทิ อินโดนีเซีย ที่แม้จะมีแนวโน้มเติบโตแต่ก็มีปัญหาทางด้านภัยธรรมชาติ แต่สิ่งที่เป็นห่วงของไทยคือ ปัจจัยด้านเสถียรภาพทางการเมือง"

ขอบคุณข้อมูลจาก รถเช่ากรุงเทพไทย.blogspot.com
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com/

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

           

            รถยนต์จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง รวมถึงมีค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมแซมบำรุงรักษา ค่าประกันภัย และภาษีประจำปี ซึ่งนับวันค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ “ธุรกิจเช่ารถยนต์” กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งจากองค์กร หรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มนักท่อง เที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ธุรกิจเช่ารถยนต์จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและเป็นโอกาสสำหรับผู้ ประกอบการที่วาง แผนจะขยายการลงทุน รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจเข้าสู่ตลาด 

            สำหรับการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 น่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการขยายการลงทุนไปสู่ประเทศต่างๆในอาเซียน อย่างไรก็ตาม คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ติดตามมาควบคู่กับโอกาสของธุรกิจเช่ารถยนต์ก็คือ อุปสรรคและความท้าทายในการดำเนินธุรกิจที่คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผชิญการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการวางแผนและปรับตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ ควรทำการศึกษาตลาดอาเซียน เพื่อใช้โอกาสจากการเปิดเสรี AEC ในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก   xn--b3cwcfi7cdc8kxf2b1b8.blogspot.com/
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่  http://www.qualityrentacar.com


          ปัจจุบันมีคนใช้บริการรถเช่ามีมากขึ้น มีทั้งเช่ารถกรุงเทพ (Car rent or Car rentalเช่ารถต่างจังหวัด (Car rent or Car rental) บางคนอาจจะแค่ขับไปทำงานแล้วกลับบ้าน บางคนก็ขับไปไกลๆถึงต่างจังหวัด มีหลายคนที่ขับอย่างเดียว โดยที่ไม่สนใจหรือเอาใจใส่รถของตัวเองว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง ทั้งที่รถทุกคันควรได้รับการดูแลและตรวจเช็คก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จึงแนะนำวิธีตรวจเช็ครถของคุณเบื้องต้น กับ 10 สัญญาณเตือนที่จะบ่งบอกได้ว่ารถของคุณนั้นอาการน่าเป็นห่วง

        1. สัญญาณเตือนรถเช่า
        เราสามารถรับสัญญาณบอกอาการผิดปกติของรถได้ โดยใช้ประสาททั้ง 5 คือ การเห็น การฟังเสียง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้น ๆ และการลองขับรถเช่าดู  ถ้าสังเกตพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ ให้รีบทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม

        2. เครื่องยนต์รถเช่า
       เครื่องยนต์คือหัวใจของรถ ถ้าเครื่องยนต์มีอาการดังนี้
       - เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนก็ขึ้นสูงเสียแล้ว
       - เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
       - มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์
       ควรนำเข้าตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

        3. ยางรถเช่า
       การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ บอกเราได้ว่ายางผิดปกติไปอย่างไร
       - ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป
       - ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป
       - ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง
       - ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ
       นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่

        4. คลัตซ์รถเช่า
        คลัตซ์ที่มีปัญหา จะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้
       - คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก
       - คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์
       - แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ
        ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมช่วงล่าง หรือศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
   
        5. เกียร์ รถเช่า
        เกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ
       - มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่
       - เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน
       - มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ ทั้ง ๆที่เหยียบคลัตซ์แล้ว
       - ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา
        ควรนำรถเข้าอู่ตรวจสอบห้องเกียร์
     
        6.พวงมาลัยรถเช่า
        พวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทำให้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ยางเฟืองท้าย ชำรุดตามไปด้วย
       - พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว
       - พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว
       - พวงมาลัยสั่นในขณะขับ
       ควรนำเข้าศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
     
        7. เบรกรถเช่า
        ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเบรกชำรุด นำมาซึ่งอุบัติภัยได้ง่ายที่สุด
       - เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ
       - เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง
       - แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว
       ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที

        8. ไฟชาร์จรถเช่า
        ไฟชาร์จ ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ ที่แน่ ๆ คือไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟ
   
        9. หลอดไฟรถเช่า
        หลอดไฟขาดบ่อย ๆ หรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า ?เรกูเลเตอร์? ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด  ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่
   
        10. น้ำมันหล่อลื่นรถเช่า
        ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่าเครื่องยนต์กำลังทำงานโดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที
        ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถลากไปอู่ซ่อม
 

ขอบคุณข้อมูลจาก รถเช่ากรุงเทพไทย.blogspot.com
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com