กรณีศึกษาเตือนภัยการเช่ารถ รถเช่าต่าง ๆ

                 วันนี้ทางเราจะนำกรณีศึกษาเตือนปัญหาการเช่ารถมาฝากค่ะ เป็นเรื่องราวของคุณ zine ได้เล่าเรื่องจากประสบการณ์จริง  คือ 

              เมื่อวันที่ 6 เม.ย.55 ที่ผ่านมา ผมได้ไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนการเดินทางผมได้หาข้อมูลรถเช่าจากเว็บต่างๆ เพราะคิดว่าถ้าจองล่วงหน้าน่าจะดีกว่า ในเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงใกล้เทศกาลท่องเที่ยว ทำให้รถเช่าเกือบทุกที่ถูกจองไว้หมดแล้ว ส่วนที่มีก็ราคาค่อนข้างสูง หลังจากสอบถามไปหลายๆที่ จึงตกลงเช่ารถกับ ....... รถเช่า เชียงใหม่” ซึ่งข้อตกลง คือ ค่าเช่ารถวันละ 1,000 บาท ผมเช่ารถ 3 วัน ก็ 3,000 บาท พร้อมค่ามัดจำ 3,000 บาท อ้อ..ทางร้านให้ผมโอนมัดจำล่วงหน้า 1,000 บาท เนื่องจากเป็นการยืนยันว่าเช่ารถแน่นอน ซึ่งผมเห็นว่าไม่ได้ยุ่งยากอะไร มีเอกสารทำสัญญาเช่าเพียงไม่กี่อย่างก็สามารถเช่าได้แล้ว ผมจึงตอบตกลง
เช้าวันที่ 6 เม.ย. วันนัดรับรถ น้องคนที่ประสานงานแจ้งว่า (ซึ่งผมเป็นคนโทรไปเอง) รถคันที่ผมต้องการถูกชน จึงหารถมาส่งให้ไม่ได้ และขอเปลี่ยนเป็น Honda New Jazz...ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะ จาก City เป็น Jazz ซีซีรถก็ไม่ต่างกัน
              พอตอนส่งรถเช่า สภาพคือล้างแต่ภายนอก ภายในฝุ่นยังเต็มไปหมด แต่ผมก็คิดว่า คงรีบๆ เรื่องแค่นี้ไม่เป็นไร ตกลงทำสัญญา พอมาดูที่น้ำมันรถเช่า แจ้งว่าไม่มี น้องเลยบอกว่า เติมเท่าไหร่ ถ้าเหลืออยู่ในถังก็จะคืนให้เท่านั้น (ซึ่งอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆว่าเค้าดูจากอะไร)  ผ่านไป 3 วัน...เย็นวันที่ 8 เม.ย. ทุกอย่างเรียบร้อยครับ ถึงตอนส่งรถเช่า ผมก็โทรไปหาน้อง*** กว่าจะรับ สายและมาถึงสนามบินเกือบทำผมตกเครื่อง เนื่องจากน้องมามอเตอร์ไซค์ซึ่งค่อนข้างล่าช้าจากเวลานัด เช็ครถ ไม่มีรอยขูดขีด ไม่มีอะไรบุบสลาย น้ำมันเหลืออยู่ครึ่งถึง ซึ่งน้องเค้าตีราคาให้ว่าจะคืนเงินให้ 500 บาท รวมมัดจำ 3,000 บาท รวมเป็น 3,500 บาท ทุกอย่างน่าเป็นไปด้วยดีใช่ไม๊ครับ?? จนกระทั่งตอนเคลียร์เงินทั้งหมด  น้องบอกว่า มีปัญหานิดหน่อยค่ะ เรื่องเงินมัดจำ เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทางบัญชีไม่มีคนมาทำงานเลย เอาอย่างนี้แล้วกัน จะโอนเงินให้ในวันรุ่งขึ้น เพราะตอนนี้ติดต่อกับทางบัญชีไม่ได้.... ผมก็งงนะ ทำการค้ายังไงไม่เป็นระบบเลย ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรหรอกครับ ให้น้องเซ็นต์ในเอกสาร (ตามแนบ) ว่าวันที่ 9 เม.ย. ทางร้านจะโอนเงินให้
              เช้าวันที่ 9 เม.ย. พยายามติดต่อกับทางร้านเช่ารถ ติดต่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง (ทุกเบอร์โทรที่ผมจะสามารถติดต่อได้) ทางน้องที่รับรถ แจ้งกับผมว่า วันนี้ยังคงติดต่อกับบัญชีไม่ได้ ซึ่งผมมีความจำเป็นต้องใช้เงินครับ...และคิดว่าเงินแค่นี้ไม่น่าจะมากมายอะไร ไม่น่าจะมีปัญหาได้ ผมก็ได้แต่รอครับ
              วันที่ 10 เม.ย. วันนี้ติดต่อกับเบอร์เจ้าของร้าน (ซึ่งน้องเรียกว่าเฮีย) รับสายแล้วสายหลุด พอโทรไปอีกครั้ง ปิดเครื่องครับ ผมคิดว่าน่าจะโดนแล้วล่ะครับ แต่ยังเชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตอนโทรไปหาน้องที่รับรถยังบอกผมว่ากำลังจะโอนเงินให้ผม ตอน 19.00 น. (กำลังออกไปแล้ว) และหลังจากนั้นผมโทรไปเบอร์ที่เค้าให้ไว้ทั้งหมดก็ไม่มีใครรับสายเลย และไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลยทั้งนั้นครับ
              ผมสรุปเอาง่ายๆว่า มัดจำผมคงไม่ได้คืนแล้วครับ แต่อยากแชร์ให้ทุกๆท่านทราบว่า ร้านแบบนี้คงมีอีกมากในเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ผมคิดว่า อย่าเห็นแก่ถูกเลยครับ เพราะสุดท้ายแล้วคุณจะเสียมากกว่าที่จ่ายกับบริษัทฯชั้นนำที่เราคิดว่าแพงอีกครับ ผมเข้าใจนะครับว่า มีอีกหลายบริษัทอยากเปิดกิจการรถเช่า แต่ร้านโนเนมแบบนี้มาทำให้เสียชื่อเสียง ก็ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆโดนผลกระทบไปด้วย ใครล่ะครับ จะอยากเสี่ยงเช่ารถกับบริษัทที่ไม่มีชื่อเสียง จ่ายแพงกว่าเพื่อความสบายใจไม่ดีกว่าหรือครับ?

             สรุปครั้งนี้ผมเช่ารถไป 6,500 บาท 3 วัน 2 คืน ถือว่าเสียรู้ไป... อย่างที่คุณ Fayman บอกไว้ว่า....
.....7. ถ้าคุณได้จ่ายมัดจำไปแล้ว ระลึกไว้เลยละค่ะ ว่าเงินพอมันเปลี่ยนมือแล้ว มันก็คืนกลับมายาก...
....10. เลือกเช่ารถบริษัทที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบให้ดี เพราะคาดว่าการเปลี่ยนชื่อร้านไม่ยาก ถ้ายังคิดหากินแบบนี้....ของผมเข้าข่าย 2 ข้อนี้อย่างจังครับ.... ลงรายละเอียดต่างๆไว้ให้ทุกๆท่านได้ดูไว้ เผื่อใครที่กำลังจะเช่ารถ   หรือ เช่ารถไปแล้วจะได้ไม่เจ็บตัวครับ....

            หวังว่าเรื่องราวของคุณ Zine คงเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ ท่านนะคะ 

ขอบคุณเรื่องราวดีดีจาก http://topicstock.pantip.com