วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

           อัตราการขยายตัวของการท่องเที่ยวไทย มิใช่มีผลด้านบวกเท่านั้น ในทางกลับกันยังส่งผลกระทบทางลบและปัญหาต่างๆที่ต้องเร่งแก้ไขด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับการเติบโตที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จะเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายในระดับกระทรวง เพื่อสรุปประเด็นปัญหาและแนวทางการทำงานในปี 2557  อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

++หนุนเปิดช่องทางขายใหม่                                                                                                                             นายสมศักย์ เปิดใจต่อเรื่องนี้ว่า ในขณะนี้แม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก แต่ประเทศไทยก็ยังประสบปัญหากับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับเช่น สนามบิน มัคคุเทศก์ หรือรถท่องเที่ยวยังไม่เพียงพอ  ดังนั้นจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องเร่งปรับปรุงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจท่องเที่ยว   สำหรับประเด็นปัญหาต่างๆที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอการสนับสนุนจากรัฐบาล  เรื่องแรกคือ ปัญหาของผู้ประกอบการในเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าคอมมิสชันให้แก่ออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ หรือ OTA จำนวนมากราว 20-25% ของจำนวนห้องที่มีอยู่ราว 1.5 หมื่นห้อง จึงขอให้กระทรวงสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้จัดทำเว็บไซต์ออนไลน์เองที่เกาะสมุย แต่เขาเห็นว่าการจัดทำเว็บไซต์ออนไลน์ควรดำเนินการทั้งประเทศ จึงต้องมีการรายงานให้นายกฯ ทราบ เนื่องจากการดำเนินการจะต้องมีการลงทุนทั้งในเรื่องเซิร์ฟเวอร์ ระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น เมื่อมีการตัดเงินผ่านบัตรเครดิต   ทั้งนี้ในเรื่องนี้รมว.ท่องเที่ยวฯจะเสนอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เข้ามาเป็นเจ้าภาพ เพราะมีคอนแทร็กกับโรงแรมอยู่แล้ว และให้คิดค่าดำเนินการไม่เกิน 5% ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางการขายใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยอาศัยเครดิตของ ททท.ที่มีสำนักงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวิธีการดำเนินการจะใช้หลักการเช่นเดียวกับออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ทั่วไปคือหากโรงแรมนั้นๆ ยังไม่มีการจองก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่าคอมมิสชัน ขณะที่กระทรวงจะมีหน้าที่ทำมาตรฐานทางการท่องเที่ยว                                                                                          
++จัดระเบียบแท็กซี่ป้ายดำ                                                                                                                                 อีกปัญหาสำคัญหนึ่ง คือ ในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดการไปแล้ว เช่น การจับกุมแท็กซี่ป้ายดำที่สนามบินภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่น เนื่องจากที่สนามบินภูเก็ตมีรถทุกประเภทที่เป็นป้ายดำที่มารับนักท่องเที่ยว ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นจะดำเนินการแก้ไขยากมาก    "ผมจะเร่งดำเนินการที่ภูเก็ตก่อน เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก รวมถึงมีคณะทูตจาก 20 ประเทศมาร้องเรียนด้วย โดยความคืบหน้าในขณะนี้มีการจับกุมไปแล้ว 1 คิว จำนวนกว่า 100 คัน ประกอบกับการสัมปทานรถแท็กซี่ที่สนามบินภูเก็ตซึ่งมีให้แก่ 3 บริษัทก็ให้ยกเลิกไปก่อน แล้วดำเนินการใหม่ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาคือให้เปิดสัมปทานใหม่ และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องเข้ามาจัดระเบียบใหม่ทั้งหมดด้วย  เพราะเรื่องนี้มีหัวโจกอยู่ ทั้งนี้จะต้องหารือในรายละเอียดกับกระทรวงคมนาคมที่จะต้องแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อทำมาตรฐานในภูเก็ต เนื่องจากในภูเก็ตไม่มีรถเมล์หรือรถประจำทางวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวเลย"

++บูรณาการทุกกระทรวง                                                                                                                                  พร้อมกันนี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ยังเสนอแนะให้แต่ละกระทรวงมีการบูรณาการเพื่อแก้ไขกฎหมาย ในเรื่องของสปีดโบต สกูดเตอร์ หรือรถจักรยานยนต์ให้เช่ารถ  (Car rent,Car rental)เป็นต้น เนื่องจากมีปัญหาหลายอย่างที่กระทรวงคมนาคมยังแก้ไขไม่ได้ เช่น รถจักรยานยนต์ป้ายดำให้เช่ารถ(Car rent,Car rental) ซึ่งกรมขนส่งทางบกบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของเขา ขณะที่กระทรวงพาณิชย์บอกว่ามีหน้าที่แค่คุมราคาค่าเช่ารถ(Car rent,Car rental) ดังนั้น ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องควรต้องมาหารือกันและทำงานอย่างบูรณาการเพื่อหาผู้รับผิดชอบ ทั้งในขณะนี้ประเทศอังกฤษได้ร้องเรียนเข้ามามากว่ามีนักท่องเที่ยวอังกฤษเสียชีวิตจำนวนมากจากการขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยให้ผู้ที่ขับขี่ไม่เป็นเช่ารถ(Car rent,Car rental)ได้ และการเช่ารถ(Car rent,Car rental)ก็ไม่สามารถยึดพาสปอร์ตได้ รวมทั้งมีสปีดโบตชนกันที่พัทยามีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 2 คน
alt "เรื่องนี้กรมเจ้าท่าก็รับที่จะไปแก้ไขกฎหมาย จากเดิมที่กฎหมายระบุว่าสปีดโบตเป็นกีฬาทางน้ำ จึงควรจะแก้ไขเป็นทางพาณิชย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถทำประกันได้ และหลังจากนี้จะเร่งแก้ปัญหาสปีดโบตโก่งราคาต่อไป ขณะที่ความคืบหน้าในการจัดตั้งศาลท่องเที่ยว ได้มีการจัดตั้งเป็นแผนกคดี ณ ศาลที่พัทยาในช่วงที่ผ่านมา และตัดสินคดีของสปีดโบตไปแล้ว ทั้งต่อไปจะจัดตั้งเป็นศูนย์คดีท่องเที่ยวที่ภูเก็ตด้วย" นายสมศักย์ กล่าว               ขณะเดียวกันอีกประเด็นปัญหา คือ บัตรมัคคุเทศก์หรือไกด์ปลอม ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯจึงจะอบรมไกด์และจัดทำบัตรรุ่นใหม่ให้เป็นแบบฝังชิพและมีคิวอาร์โค้ด ป้องกันไม่ให้มีการปลอมแปลงบัตร โดยสมาคมมัคคุเทศก์ฯ ได้เห็นด้วยแล้ว อีกทั้งกระทรวงได้เสนอให้เก็บค่าธรรมเนียมบัตร 1 พันบาท จากจำนวนไกด์ที่มีราว 4 หมื่นคน ซึ่งจะเป็นการนำไปลงทุนเพื่อไม่ให้มีการปลอมบัตรได้

++ไทยรับทัวริสต์ไม่เกิน 30 ล้านคน                                                                                                                    ทั้งในขณะนี้ ยังมีประเด็นในเรื่องที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการศึกษาข้อดีข้อเสียของการยกเลิกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งรมว.สมศักย์ ให้ความเห็นว่า เขามีความเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เนื่องจากมีข้อเสียคือประเทศไทยไม่สามารถสกรีนคนได้ทั้งหมด แล้วยังเป็นโอกาสให้ผู้ร้ายหรือผู้ที่มีรายได้น้อยหวังเข้ามาขุดทองในประเทศไทย และเข้ามาสร้างปัญหาในไทย ไม่ต้องพูดถึงประเด็นที่ภาครัฐขาดรายได้จากค่าธรรมเนียมวีซ่า ซึ่งหากเทียบนโยบายการยกเลิกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ดำเนินการไปแล้วไม่เป็นปัญหา เป็นเพราะชาวญี่ปุ่นมีวินัยและมีกฎหมายที่เข้มข้นในการตรวจสอบ              นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีปัญหามัคคุเทศก์และรถท่องเที่ยวไม่เพียงพอ โดยรมว.ท่องเที่ยวฯ มองว่าเรื่องนี้แก้ไขได้ไม่ยาก แต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนหนทาง อาจจะดำเนินการแก้ไขไม่ทัน แม้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาทอยู่แล้ว และผมได้เสนอทางนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าประเทศไทยสามารถรองรับได้ไม่เกิน 30 ล้านคนภายในปี 2558 แต่ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึงราว 26-27 ล้านคนแล้ว ดังนั้น หากมีการยกเลิกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนอีก ก็ยิ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ประเทศไทยจะไม่สามารถรองรับได้ ก็จะทำให้เกิดปัญหามาก               ทั้งหมดล้วนเป็นปัญหาในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่รมว.ท่องเที่ยวฯเป็นเซ็นเตอร์ในการผลักดันเพื่อเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ขอบคุณข้อมูลจาก thanonline.com
และติดตามเรื่องราวของเราได้ที่ http://www.qualityrentacar.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น